• carlo_v_10.jpg

เป็นความรักพระเจ้า

โดย คุณพ่อบรรจง สันติสุขนิรันดร์

            พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์มาให้มีพระฉายาของพระองค์

            นักบุญยอห์นผู้นิพนธ์พระวรสารยืนยันว่า  “พระเจ้าทรงเป็นความรัก” (1ยน 4,8)

            พระฉายาของพระเจ้าในมนุษย์แต่ละคนคือความรัก และความรักคือตัวแปรของพระฉายาของพระเจ้าในแต่ละคน

            ยิ่งคนหนึ่งรักมาก พระฉายาของพระเจ้าในตัวเขายิ่งครบครันมาก

            พระฉายาของพระเจ้าคือแก่นแห่งความเป็นมนุษย์

            อันที่จริง แต่ละคนแต่ละชีวิตถือกำเนิดจากความรัก เติบโตพัฒนาด้วยความรัก ดำเนินชีวิตด้วยความรักและมีความรักเป็นแรงบันดาลใจ อีกทั้งขับเคลื่อนพลังกายพลังใจ มีความรักเป็นเป้าหมายชีวิต 

            กระนั้นก็ดี แม้ทุกคนจะรักเป็น
 แต่ไม่ใช่ทุกคนรักอย่างถูกต้องอย่างแท้จริง

            พระเยซูเจ้าเสด็จมาในโลกเพื่อคืนพระฉายาของพระเจ้าที่เสื่อมไปเพราะบาป
พร้อมกันนั้น ก็ทรงสอนวิธีการทำให้พระฉายาของพระเจ้าในมนุษย์แต่ละคนให้เด่นชัด
และสมบูรณ์ขึ้น ทั้งด้วยคำสอนทั้งด้วยแบบอย่างของพระองค์

            พระเยซูเจ้าทรงยืนยันว่าวิธีการเป็นบุตรพระเจ้าอยู่ในการดำเนินชีวิตโดยมีความรัก
เป็นแรงบันดาลใจและมีความรักเป็นที่ตั้ง

            รักพระเจ้าและรักเพื่อนพี่น้อง

            ยิ่งไปกว่านั้น พระเยซูเจ้าทรงนำความใหม่มาให้แก่ความรักพระเจ้าและความรักเพื่อน
พี่น้องเมื่อทรงยืนยันว่าความรักพระเจ้าและความรักเพื่อนพี่น้องเป็นความรักเดียวกัน

            รักพระเจ้าด้วยการรักเพื่อนพี่น้องและรักเพื่อนพี่น้อง ก็คือรักพระเจ้า 

            กระทั่งการท่าทีและกระทำของมนุษย์แต่ละอย่าง
แต่ละครั้งส่งผลถึงพระเจ้า
“...ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องคนใดคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา...ท่านไม่ทำสิ่งใดต่อพี่น้องคนใด
คนหนึ่ง ท่านก็ไม่ได้ทำสิ่งนั้นต่อเรา” (มธ 25.40,45)

            และเพื่อให้ความรักแท้จริงและสมบูรณ์แบบ พระเยซูเจ้าทรงกำชับให้รักอย่างที่พระองค์ทรงรักมนุษย์แต่ละคน...รัก “อย่างและเท่า” ที่พระองค์ทรงรัก... 

            การ์โลเข้าถึงความรักของพระเจ้าตั้งแต่อยู่ในบริบทครอบครัวและบริบทวัด ทำให้การ์โล มองทุกอย่างจากมุมมองของความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์  ทุกเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมี
พระเจ้าทรงรับรู้ การ์โลจึงมองหาคำตอบและคำอธิบายสำหรับแต่ละเหตุการณ์ พร้อมทั้งช่วยแนะนำคนรอบข้างได้เข้าถึงความรักของพระเจ้าที่มีต่อแต่ละคน ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะดีหรือร้าย เพราะคนที่เชื่อในความรักของพระเจ้าจะไม่มองเฉพาะสิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละเหตุการณ์เท่านั้น
แต่มองเลยเหตุการณ์นั้นๆด้วยสายตาแห่งความเชื่อและความไว้ใจในความรักและความเมตตาของพระเจ้า   ดังที่เขียนไว้ในอัตชีวประวัติ 

            “ที่เมืองแชร์นุสโก ประชาชนมีความศรัทธาร้อนรนมากขึ้น อันเนื่องมาจากความกลัว(สงคราม)และหวังในความช่วยเหลือคุ้มครองจากพระ คุณพ่อเจ้าอาวาสเชิญชวนสัตบุรุษให้มาวัดทุกเย็นเพื่อสวดสายประคำและอ่านข่าสารล่าสุดเกี่ยวกับสงคราม...พระสงฆ์ช่วยอธิบายและชี้แจงให้สัตบุรุษทราบเกี่ยวกับสถานการณ์สงคราม เวลาเดียวกันก็เร้าเตือนพวกเขาให้สวดสายประคำ
เพื่อทหารที่อยู่ในภาวะสงคราม...”  (พ่อ:อัตชีวประวัติ หน้า 38)
 

            การ์โลเติบโตขึ้นมาบนพื้นฐานแห่งความเชื่อในความรักและความเมตตาของพระเจ้า กระทั่งกลายเป็นความสำนึกว่าหากได้รับความรักและความเมตตาของพระเจ้า ตัวเขาควรต้อง
เป็นความรักและความเมตตาของพระเจ้าสำหรับผู้อื่นด้วย  และนี่คือบันดาลใจที่แรงขับเคลื่อน
ในการเลือกเส้นทางชีวิต...เป็นชีวิตเพื่อเป็นความรักของพระเจ้าสำหรับทุกคน ไม่เพียงผู้ที่เป็น
เพื่อนร่วมชาติเท่านั้น แต่ผู้อยู่ดินแดนห่างไกล ดังที่เขียนในอัตชีวประวัติ 

            “…เราไม่เพียงได้รับเรียกให้ดำเนินชีวิตคริสตชนที่ดีเท่านั้น แต่ให้ดำเนินชีวิตใกล้ชิด
ชีวิตที่พระเยซูเจ้าทรงดำเนินเมื่อทรงยังอยู่ในโลกนี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ พระเยซูเจ้าทรงเป็นต้นแบบของธรรมทูตที่ดี เพราะเหตุนี้เราจึงต้องรู้จิตตารมณ์ของพระองค์ให้ดี รู้วิถีชีวิตของพระองค์ รู้ถึงความรักของพระองค์เพื่อความรอดของพี่น้องที่ไม่ได้เป็นคริสตชน พระองค์ทรงสัตย์ซื่อ
ต่อพันธกิจแห่งการเป็นพระมหาไถ่และไม่เลิกรา
 

แม้จะมีความยากลำบาก พระองค์ทรงสัตย์ซื่อต่อพระบิดาเจ้า หาทางช่วยคนให้รอดจนกระทั่งสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน   พระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นธรรมทูตที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ทรงเป็นแบบอย่างแท้จริงของเรา  ถ้าเราติดตามพระองค์เสมอและในทุกแห่งจนสิ้นชีวิต
เราก็จะมีลาภได้เข้าสวรรค์และเป็นสุขที่ได้สร้างความดีให้แก่วิญญาณของเราและนำเพื่อนพี่น้องหลายคนเข้าถึงความรอด” (พ่อ:อัตชีวประวัติ หน้า 111)
 

            ผู้ที่เข้าถึงความรักของพระเจ้าแล้วไม่พอใจแค่สุขกับความรักของพระองค์
            แต่รู้สึกเป็นหน้าที่ช่วยให้ทุกคนเข้าถึงความรักของพระองค์เช่นกัน *