การเคลื่อนย้ายศพของ
คุณพ่อการ์โล เดลลา โตร์เร ข้ารับใช้ของพระเจ้า
ผู้ก่อตั้งคณะธิดาพระราชินีมาเรียผู้นิรมล
……………………………
คุณพ่อการ์โล เดลลา โตร์เร
ผู้ตั้งสถาบันธิดาพระราชินีมาเรียผู้นิรมล
ได้สิ้นใจอย่างศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่ต้องเจ็บป่วยทรมานมาเป็นเวลานาน
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 1982 วันอาทิตย์ใบลาน
ก่อนจะสิ้นใจ ลูก ๆ ฝ่ายจิตของคุณพ่อมีความปรารถนาที่จะจัดทำอนุสาวรีย์
และบรรจุศพของคุณพ่อไว้ที่ฐาน
แต่พวกเขาไม่ได้พูดเกี่ยวกับความปรารถนานี้เมื่อคุณพ่อยังมีชีวิตอยู่
จึงต้องนำศพของคุณพ่อไปบรรจุไว้ที่สุสานของวัดนักบุญโยเซฟ บ้านโป่ง
ในสถานที่มีการบรรจุศพของสมาชิกซาเลเซียนผู้ล่วงลับ
ในเวลาเดียวกันก็มีความตั้งใจว่าจะนำศพของคุณพ่อไปบรรจุไว้ที่ศูนย์กลางของคณะ
ในกรุงเทพฯเมื่อสามารถทำได้
หลังจากที่ได้รับแบบของอนุสาวรีย์ในเดือนสิงหาคม
พวกเขาได้รีบเร่งดำเนินการเพื่อจะทำตามที่ตั้งใจไว้
พวกเขาได้พบกับบุคคลสองคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสร้างศิลปะไทยด้วยปูนซีเมนต์
ในขณะที่รอรายละเอียดเพื่อตัดสินใจอยู่นั้น
พวกเขา ได้ไปหาซื้อหินอ่อนเพื่อทำพื้นอย่างเดียว
และได้พบบริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับหินอ่อน
ซึ่งเสนอที่จะทำอนุสาวรีย์ให้ทั้งหมด พร้อมกับฐานและรูปปั้น
โดยใช้ผงหินอ่อนราคาสูงกว่าผู้รับเหมาสองคนแรกไม่มาก
ดังนั้น พวกเขาก็ได้ตัดสินใจให้บริษัทสุดท้ายนี้รับงานไป
ได้มีการทำสัญญาเมื่อวันที่ 4 กันยายน 1982
ซึ่งเป็นวันที่ระลึกถึงคุณพ่อการ์โล สิ้นใจ (วันที่ 4)
บริษัทสัญญาว่าจะทำอนุสาวรีย์ให้เสร็จภายในวันที่ 15 ธันวาคม 1982
นี่คือก้าวแรกของโครงการ
แต่ก็ยังมีก้าวอื่นๆอีกที่ต้องทำ
อาทิ การขออนุญาตพระสังฆราชประจำท้องที่ที่ฝังศพของคุณพ่อการ์โล
คือพระสังฆราชเอก ขออนุญาตเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่จะเก็บรักษาศพไว้นอกสุสาน
ขอความเห็นชอบจากคุณพ่อเจ้าคณะแขวงซาเลเซียน เป็นต้น
ซึ่งแต่ละอย่างก็ยังไม่มีอะไรแน่นอน
พวกเขาเริ่มไปพบคุณพ่ออูลลีอานา เจ้าอาวาสวัดบ้านโป่ง
ในวันที่ 4 ธันวาคม 1982 คุณพ่อได้แนะนำขั้นตอนด้านกฎหมายที่ต้องทำ
กล่าวคือ การขออนุญาตพระสังฆราชท้องที่
วันที่ 5 ธันวาคม 1982 คุณพ่อไมเกิล ประพนธ์ ชัยเจริญ
ซึ่งเป็นคุณพ่อจิตตาธิการของสถาบันได้พบพระสังฆราชเอก
โดยบังเอิญที่สำนักเจ้าคณะแขวงซาเลเซียนและได้กล่าวว่า
ผู้ปกครองของสถาบันอยากจะขอพบ ฯพณฯ
เพื่อขออนุญาตย้ายศพของคุณพ่อการ์โล เดลลา โตร์เร
ไปบรรจุไว้ที่บ้านศูนย์กลางของสถาบันในกรุงเทพฯ
พระคุณเจ้าได้กล่าวถึงปัญหาด้านกฎหมายพระศาสนจักร
เนื่องจากการฝังและการย้ายศพมีระยะเวลาใกล้กันเกินไป
วันที่ 6 ธันวาคม 1982 พระสังฆราชเอกได้โทรศัพท์ถึงผู้ปกครองคณะกล่าวว่า
ฯพณฯ ไม่พร้อมจะให้อนุญาต และแนะนำว่าถ้าทางสถาบันต้องการจะได้รับอนุญาต
ก็ต้องไปพบพระคุณเจ้าเรนาโต มาร์ตีโน พระสมณทูต
วันที่ 9 ธันวาคม 1982 ทางสถาบันได้ส่งสมาชิกคนหนึ่งไปพบพระสมณทูต
พร้อมกับคุณพ่อไมเกิล ประพนธ์ แต่พระสมณทูตไม่อยู่
เลขาฯของท่านจึงได้ชี้แจงขั้นตอนที่ต้องทำและสัญญาว่าจะไปศึกษาเรื่องนี้
และแจ้งให้พระสมณทูตทราบ
ในเวลาเดียวกันก็แนะให้ขอ Nihil Obstat (ไม่มีอะไรขัดข้อง)
จากคุณพ่อเจ้าคณะแขวงซาเลเซียนเนื่องจากคุณพ่อการ์โลได้กลับเข้าคณะก่อนสิ้นใจ
วันที่ 13 ธันวาคม 1982
พวกเขาได้ไปพบคุณพ่อไรมุนโด การ์เซีย ซานโตส เจ้าคณะแขวงซาเลเซียน
เพื่อขอความเห็นชอบในส่วนของซาเลเซียน
เลขาฯของเจ้าคณะแขวงได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งในนามของเจ้าคณะแขวง
ลงวันที่ 15 ธันวาคม 1982 ยืนยันความเห็นชอบของท่าน
วันที่ 20 ธันวาคม 1982
พระสมณทูตได้กรุณาเรียกผู้ปกครองคณะไปพบ
ซิสเตอร์มาเรียและคุณพ่อไมเกิล ประพนธ์ ได้ไปที่บ้านสมณทูต
พระสมณทูตให้การต้อนรับอย่างดี พร้อมกับถามเกี่ยวกับเรื่องนี้
ในเวลาเดียวกันก็แนะหลายประเด็นที่ต้องทำ
สุดท้ายพระสมณทูตก็ได้มอบจดหมายลงวันที่ 18 ธันวาคม 1982
บอกว่าท่านเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะทำการย้ายศพ
ตามกฎหมายพระศาสนจักรข้อ 1214, 1
ในวันเดียวกัน ซิสเตอร์มาเรียได้ไปพบพระอัครสังฆราชแห่งกรุงเทพฯ
เพื่อแจ้งให้พระคุณเจ้าทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ พระคุณเจ้าไม่ขัดข้อง
ยังคงเหลือประเด็นทางราชการ ดังนั้น ในวันที่ 21 ธันวาคม
พวกเขาจึงไปพบหัวหน้าเขตยานนาวาเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้
พวกเขาได้รับทราบว่า ตามนัยของกฎหมายปัจจุบัน
การจะบรรจุศพในบริเวณบ้านส่วนตัวนั้นไม่ต้องขออนุญาต
ต่างจากกรณีที่ต้องการบรรจุศพไว้ในสถานที่สาธารณะ อาทิ ในวัด เป็นต้น
วันนั้นเอง พวกเขาเดินทางไปที่บ้านโป่งเพื่อขออนุญาตเจ้าหน้าที่ของท้องที่
เพื่อย้ายศพจากสุสานบ้านโป่งไปไว้ที่ศูนย์กลางของสถาบัน
แล้วนั้นพวกเขาก็ขอคุณพ่อเจ้าวัดเคลื่อนหินบางก้อนออกจากคูหา
เพื่อดูว่าจะจัดการอย่างไรในกรณีที่ศพกำลังอยู่ในสภาพเน่า
แต่ปรากฏว่าไม่มีกลิ่นหรือของเหลวไหลออกมาจากโลงศพ
ในที่สุด วันที่ 23 ธันวาคม 1982
สมาชิกกลุ่มหนึ่งได้เดินทางไปบ้านโป่งเพื่อเคลื่อนโลงศพออกจากคูหา
พวกเขาทำความสะอาดโลงศพที่ยังอยู่ในสภาพดี
เวลา 15.30 น. ขบวนศพไม่กี่คนได้ออกเดินทางจากสุสานบ้านโป่ง
มุ่งสู่กรุงเทพฯและเวลา 17.20 น. ก็ได้มาถึงสถาบัน เวลา18.30 น.
มีพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณโดยมีสมาชิกและผู้ใกล้ชิดสถาบันเข้าร่วม
พร้อมกันนี้ก็ยังมีรูปแม่พระฟาติมา
ที่คุณพ่อ Patrick Moore อัญเชิญไป จาริกในที่ต่างๆ ตั้งอยู่ในวัดด้วย
ดูเหมือนว่าแม่พระทรงอยากจะอยู่ต้อนรับคุณพ่อการ์โลกลับบ้านด้วย
เนื่องจากอนุสาวรีย์ยังไม่เสร็จ
จึงได้เก็บศพไว้ในห้องหนึ่งของบ้านพักสมาชิกเป็นเวลา 5 วัน
วันที่ 27 ธันวาคม 1982 เวลา 17.30 น.
มีพิธีสหบูชามิสซาโดยมีพระสงฆ์ร่วมอยู่ 5 องค์ คือ คุณพ่อ Restelli
คุณพ่อศวง คุณพ่อวิจิตร คุณพ่อวิทยา และคุณพ่อ Patrick Moore
ซึ่งได้ติดตามศพไปถึงอนุสาวรีย์สีขาวและดูสง่า
โดยมีรูปปั้นของคุณพ่อการ์โล เดลลา โตร์เร ตั้งเด่นอยู่ด้านบน
เพื่อคอยดูแลสถาบันที่คุณพ่อรักและได้ตั้งขึ้นด้วยความรักและความยากลำบากยิ่ง
สำหรับลูกๆฝ่ายวิญญาณของคุณพ่อในปัจจุบันและในอนาคต
เขียนบันทึกโดย พระสังฆราชประพนธ์ ชัยเจริญ, 3 มกราคม 1983