• mary_v_2.jpg

พบกับพระมารดา ณ วัดท่าหว้า ค.ศ.1936

เนื่องจากว่า  ก่อนที่จะบวชเป็นพระสงฆ์
คุณพ่อการ์โลทำหน้าที่ดูแลโรงครัว  เรื่องอาหารของบ้านเณร
ดูแลเณร และเป็นผู้ช่วยซึ่งคุณพ่อทำงานหนักมาก

เวลาเดียวกันคุณพ่อก็ได้ริเริ่มโครงการที่จะตั้งคณะนักบวช
ตามที่คุณพ่อโซราฟิโนได้บอก
ซึ่งคุณพ่อได้เริ่มให้การอบรมหญิงวาวที่อยู่ในครัว
ซึ่งในช่วงนั้นคุณพ่อต้องทำการพลีกรรมและอดอาหาร
เป็นเวลาถึง 8 ปี ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรมลง

ดังนั้นหลังจากบวชเป็นพระสงฆ์แล้ว
จึงได้ขออนุญาตจากพระสังฆราชปาซอตตีไปประจำที่ท่าหว้า
เพื่อพักฟื้นสุขภาพ  จากอัตชีวประวัติพ่อเล่าว่า

“ค่ำวันหนึ่ง หลังจากสวดภาวนากับสมาชิกแล้ว
พ่อก็กลับเข้าห้องที่มืดสนิทคุกเข่าที่โต๊ะทำงาน 
มือกุมศีรษะสวดสายประคำเป็นเวลานาน
พร้อมกับรำพึงถึงตัวเองที่ต้องตกอยู่ในความมืดมนแห่งชีวิต
แล้วหวนไปคิดถึงชีวิตทหารที่แสนยากเข็ญ
ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงช่วยเหลือคุ้มครองให้รอดปลอดภัย
คิดถึงชีวิตเณรที่ผ่านมาในความทุกข์ยากลำบาก

ชีวิตสงฆ์ในวันแรกๆ ที่ยุ่งยากแสนสาหัส
พ่อหลับตาในขณะที่พ่อกำลังคิดและเศร้าใจอยู่อย่างนั้น
พอพ่อลืมตาเหลือบไปเห็นรูปร่างสีขาวบนโต๊ะทำงาน
พ่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นบุคคลในชุดสีขาว  ใบหน้าเศร้า...
โดยไม่ลังเลใจ  พ่อเข้าใจว่าคงไม่ใช่ใครอื่น
แต่เป็นพระมารดาของพระเจ้า
พ่อจึงทูลถามอย่างไม่รีรอว่า
พ่อต้องคิดเรื่องการตั้งคณะอย่างที่คุณพ่อเซราฟิโนบอกต่อไปหรือไม่...
พระมารดาก้มพระเศียรและตรัสว่า
“ใช่  ทุกอย่างจะสำเร็จภายหลังหก”
พูดเสร็จภาพสตรีงามนั้นก็หายไป

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในระหว่างที่คุณพ่อประจำที่วัดท่าหว้า
นี่นับเป็นครั้งแรกที่พ่อได้สนทนากับแม่พระทางคำพูดโดยตรง
และการที่แม่พระเสด็จมาหาพ่อ  มีพระพักตร์ที่เศร้าหมองเหมือนจะบอกว่า
พระแม่เข้าใจในความยากลำบากทุกอย่างที่พ่อประสบ
และเป็นทุกข์ร่วมกับคุณพ่อ
พระแม่มาพร้อมกับการให้ความหวังและกำลังใจ
ที่จะให้คุณพ่อก้าวเดินไป   พระแม่ให้ความเอาใจใส่ต่อคำวิงวอน
ของคุณพ่อและมอบหมายให้พ่อต้องทำงานต่อไปด้วยคำภาวนา
รอเวลาแห่งพระญาณเอื้ออาทรจะทรงกระทำและนำทาง

ส่วนเรื่อง “การตั้งคณะจะสำเร็จได้ภายหลัง 6”
คุณพ่อยังไม่กระจ่างแจ้งในเรื่องนี้  อาจจะเป็นการย้ายที่อยู่ถึง 6 แห่ง
หรือหลังจาก 6 ปีแห่งการรอคอย 
เพราะพระองค์ทรงรู้ว่าเวลาไหนเหมาะสม
แต่คุณพ่อก็ยังคงเฝ้าภาวนาและทำงานเพื่อจะได้ใกล้ชิดพระ
และทำให้เข้าใจในแผนการของพระเจ้ามากขึ้น
เมื่อเวลาของพระเจ้ามาถึงก็จะนำแสงสว่างมาให้เราเห็นเส้นทาง
และพื้นที่งานที่เราต้องทำ
สิ่งที่สำคัญคือ เราต้องอ่อนน้อมถ่อมตน
และพร้อมจะทำสิ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์ 
ไม่ใช่สิ่งที่เราชอบ
.....................................................................