• carlo_v_4.jpg

ดำเนินชีวิตตามพระประสงค์
โดย คุณพ่อบรรจง สันติสุขนิรันดร์

       ชีวิตมนุษย์แต่ละชีวิตที่เกิดมาในโลกเป็น
“หนึ่งเดียวคนนี้” ... ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
       แต่ละชีวิตเป็นกระแสเรียก พระเจ้าทรงเรียกและมนุษย์ตอบรับการเรียก...เรียกเข้าสู่ชีวิต
       แม้ว่าเมื่อเกิดมาแต่ละคนยังไม่รู้เกี่ยวกับกระแสเรียกนี้ แต่เมื่อเกิดมาแล้ว แต่ละคนจะค่อยๆเข้าถึงกระแสเรียกดังกล่าว ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ไม่ด้วยตนเองก็โดยทางผู้อื่น
       ในขณะที่แต่ละชีวิตเติบโตพัฒนาขึ้นมาในแต่ละด้านและในทุกด้านตามจังหวะและตามครรลองชีวิต พร้อมกันนั้นก็ค่อยๆเข้าถึงชีวิต  เข้าถึงคุณค่าชีวิต  เข้าถึงความหมายชีวิต  
เข้าถึงเป้าหมายชีวิต  เข้าถึงสิ่งที่อยากจะทำกับชีวิต
       กระแสเรียกและแผนการชีวิตที่พระเจ้าทรงมีสำหรับแต่ละคนจึงค่อยๆเด่นชัดขึ้น 
       และถึงแม้หลายคนจะไม่รับรู้ถึงกระแสเรียกและแผนการชีวิตที่พระเจ้าทรงกำหนดให้
แต่ชีวิตจิตวิญญาณและสามัญสำนึกของแต่ละคน อีกทั้งสภาพแวดล้อมที่แต่ละคนดำเนินชีวิตอยู่ จะนำแต่ละคนไปตามกระแสเรียกและแผนการชีวิตดังกล่าวจนได้

       คุณพ่อการ์โล เดลลา โตร์ เริ่มสำนึกถึงการเรียกของพระเจ้าตั้งแต่เป็นเด็ก
       บรรยากาศครอบครัว บรรยากาศวัด บรรยากาศสังคม ต่างมีส่วนในการหล่อหลอมความสำนึกนี้  ถึงแม้จะเป็นความสำนึกตามประสาวัย ความนึกคิดแห่งวัย  อีกทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นรอบข้าง กระนั้นก็ดี พระเจ้าทรงใช้ทุกสิ่งเหล่านี้เพื่อหล่อหลอมความสำนึกของหนูน้อยการ์โลเกี่ยวกับกระแสเรียกที่พระองค์ทรงเรียกเขา ดังที่คุณพ่อการ์โลเองได้เขียนในอัตชีวประวัติ

       “พ่อมักจะคิดว่าสัตบุรุษทุกคน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่างก็หมั่นไปแก้บาปกันบ่อยๆ
นั่นหมายความว่าทุกคนทำบาป แต่ไม่เคยเห็นพระสงฆ์แก้บาป คงเป็นเพราะพระสงฆ์เป็นคนดีและไม่ทำบาป  พ่อจึงพูดกับคุณแม่ว่าแม่ครับ เราทุกคน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต้องแก้บาปเพราะทำบาป แต่พระสงฆ์ไม่ทำบาป เพราะพระสงฆ์เป็นคนดี จึงไม่ต้องแก้บาป เพราะเหตุนี้ แม่ครับ ลูกจึงอยากเป็นพระสงฆ์บ้าง จะได้ไม่ทำบาปอีกต่อไป”...
          (พ่อ : อัตชีวประวัติคุณพ่อการ์โล เดลลา โตร์เร, หน้า 26)
       ความสำนึกแห่งกระแสเรียกในตัวหนูน้อยการ์โลพัฒนาขึ้นพร้อมกับวุฒิภาวะ ในขณะที่เพื่อนวัยเดียวกันพากันวิ่งเล่นก่อนเข้าชั้นเรียนคำสอน การ์โลหาโอกาสไปพูดคุยกับพระสงฆ์ประจำอยู่ที่วัด แต่ละครั้งมักจะมีความสงสัยเกี่ยวกับคำสอนและข้อความเชื่อไปถามและพูดคุยด้วยเสมอ ดังที่ภายหลังคุณพ่อการ์โลเขียนไว้ในอัตชีวประวัติ

       “ในช่วงเวลาหนึ่งชั่วโมงที่เด็กจะเล่นก่อนจะมีการสอนคำสอน
พ่อชอบไปคุยกับพระสงฆ์เพื่อขอคำอธิบาย
 ว่าทำไมพระเจ้าองค์เดียวจึงมีสามพระบุคคลในเวลาเดียวกัน
คุณพ่อก็อธิบายให้ฟัง แต่ยิ่งอธิบายพระธรรมล้ำลึกแห่งพระตรีเอกภาพ
พ่อก็ยิ่งไม่เข้าใจ  กระนั้นก็ดี พ่อจะไม่เลิกละความพยายาม
พ่อจะถามเรื่องเดียวกันนี้ทุกครั้งที่ไปที่ศูนย์เยาวชน 
และเช่นนี้ทุกอาทิตย์ แทนที่จะไปเล่นกับเด็กอื่นๆ พ่อจะถามคุณพ่อที่ดูแลเราเกี่ยวกับพระเจ้าและพระธรรมลำลึกของพระองค์ คุณพ่อก็อธิบายซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เมื่อเห็นพ่อยังสั่นหัวไม่เข้าใจ คุณพ่อก็ยื่นมือขวามาวางบนหัวพ่อและพูดว่า
เธอช่างเป็นคนขี้สงสัยจังเลย เราเข้าใจพระเจ้าไม่ได้
จงไปเล่าเรียนและบวชเป็นพระสงฆ์ แล้วเธอจะเข้าใจว่า เราไม่มีวันเข้าใจพระเจ้าได้เลย’”      (พ่อ : อัตชีวประวัติคุณพ่อการ์โล เดลลา โตร์เร, หน้า 27)

       พระเจ้าทรงมีและทรงใช้วิธีการร้อยแปดเพื่อแสดงพระประสงค์ของพระองค์ 
และพระประสงค์ของพระเจ้าคือให้มนุษย์ชีวิตที่เต็มเปี่ยมและมีชีวิตนิรันดร
       หากมนุษย์รู้จักเปิดใจ เขาจะเห็นถึงพระประสงค์ของพระเจ้า เห็นผลงานอันน่าพิศวงของพระองค์ทั้งในตนเอง ในบริบทรอบข้าง และในโลกกว้าง
       คุณพ่อการ์โลเปิดใจสำหรับพระเจ้าตั้งแต่เล็ก แล้วนั้นตลอดชีวิตของท่าน 
ทำให้ท่านรู้แจ้งถึงพระประสงค์ของพระเจ้าและมีความมั่นใจ ความหนักแน่น และความเด็ดเดี่ยวในการทำตามพระประสงค์ของพระองค์โดยไม่นำพาต่ออุปสรรค ความยากลำบากทั้งกายและใจ และสามารถทำให้พระแสเรียกของพระเจ้ากลายเป็นจริงและสำเร็จในชีวิตท่าน
       คุณพ่อการ์โลเข้าใจดีว่า ความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในการวินิจฉัยพระประสงค์ของพระเจ้า
และทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จด้วยความมุ่งมั่น  เพราะพระประสงค์ของพระเจ้า
ในทุกอย่างก็เพื่อความดีและความเต็มเปี่ยมแห่งชีวิตมนุษย์นั่นเอง •